ความเชื่อของคนโบราณ เชื่อว่าเขี้ยวหมูเป็นของทนสิทธิ์ อานุภาพของเขี้ยวหมูตันสุดยอดทางมหาอุด หยุดลูกปืน คงกระพัน ป้องกันภัยได้สารพัด ซึ่งในอดีตขุนโจร,เสือต่างๆหรือนักเลง ที่มีชื่อเสียงมักพกเขี้ยวหมูตันไว้ป้องกันตัว ซึ่งเป็นเครื่องรางที่หายาก และอานุภาพสูงชนิดหนึ่ง โดยเขี้ยวหมูตันนั้นจะอยู่ยงคงกระพันด้วยตัวเอง ท่านเกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงเอาเขี้ยวหมูตันมาลงอักขระยันต์ มอบให้แก่ศิษย์ได้มาติดตัวเป็นเครื่องรางประเภทหนึ่ง
1. เมื่อส่องกล้องขยายจากโคนจนถึงปลายจะมองเห็นเส้นตามขวางเป็นริ้งๆ เป็นเส้นที่แสดงถึงการงอกเพิ่มของเขี้ยวหมูตามอายุของมัน
2. ส่วนของเขี้ยวหมูที่ถูกใช้สัมผัสกับเหงื่อจะมีสีเปลี่ยนไป แลออกเหลือง จุดสังเกต จะเห็นเสมือนเป็นชั้นบางๆเคลือบผิวอยู่(คล้ายกับว่าถูกเคลือบด้วยเทียนไข)
3. ตรงส่วนปลายของเขี้ยวจะมีส่วนที่เป็นมุมคมเพื่อการบดเคี้ยวอาหาร
4. เขี้ยวหมูตันที่ตันตั้งแต่โคนเลยไม่มีครับ เพราะตัวฟันต้องมีรูกลวงไว้ครอบกับกระดูกกราม หรืออย่างน้อยต้องมีโพรงประสาท แล้วค่อยเป็นโคนตันแบบที่เราเห็นกัน โดยโพรงอากาศนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุของหมูตัวนั้นๆ
5. เขี้ยวหมู ธรรมดา จะกลวงจนเกือบปลายเขี้ยวเลยครับ โดยเขี้ยวจะเกิดจากกระดูกที่เป็นร่องสองแผ่นประกบกัน ร่องจะค่อยๆสอบเข้า(กระดูกเขี้ยวเชื่อมกัน)จากด้านข้าง จนเกือบปลายเขี้ยวจึงจะเริ่มตัน
6. เขียวหมูตันจะตันตั้งแต่ 1ใน 3 หรือ 1ใน 4 ของเขี้ยว
7. ส่วนวิธีดูเนื้อในเขี้ยวว่าเป็นเนื้อฟันหรือเนื้อเก๊ ทำได้โดยพิจารณาสีสันว่าออกไปทางกระดูกแห้งปนแดงๆหรือไม่ สีภายในเขี้ยวจะต่างจากเนือ้ฟันภายนอกเพราะเป็นสารคนละชนิดกัน เหมือนฟันของคนเราแต่ละชั้นก็จะแตกต่างกันครับ หรือจะลองเคาะๆดู ถ้าเป็นปูนปลาสเตอร์ก็จะหลุดมาเอง ส่วนถ้าเป็นเรซิ่นมองดูก็รู้ว่าเก๊แล้วครับ.... สิ่งที่เราต้องระวังก็คือ เขี้ยวหมูตันที่มีรอยแตกตรงโคนแล้วข้างในตันไปเลยทั้งแท่ง อย่างนี้เก๊แน่นอนครับ