สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรหม์ เจ้าเสน่ห์หา
ปู่พรหม์ เจ้าเสน่ห์หา อาจารย์ผู้เฒ่าชาวพม่า อายุ 82 ปี ผู้เชียวชาญพระเวทย์ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ชั้นสูงของเมืองพม่า ชนิดรู้จริงเป็นจริงพิสูจน์ได้ วิชาอาถรรพณ์ไสยเวทย์ต่างๆ
ปู่พรหม์ ล้วนสืบทอดมาจาก ปู่สี ปู่แท้ๆของท่าน ปู่สีครั้นยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นฆราวาสที่มีอาคมขลังโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหาเสน่ห์แล้วละก็ เห็นผลได้ชะงักนัก จึงเป็นที่นับถือของหนุ่มชาวพม่าในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ปู่พรหม์ได้ตั้งใจสืบทอดวิชาอาถรรพณ์ต่างๆจากปู่สีมาจนหมดสิ้นจนสามารถทดสอบให้ปู่สีได้เห็น จนเป็นที่พอใจอย่างมาก ปู่พรหม์กล่าวว่าท่านสามารถทำน้ำมันพราย และผงภูตพรายต่างๆใช้ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ เห็นผลชะงัก ตอนอายุแค่เพียง 17 ปีเท่านั้น ปู่สีจึงมอบหมายให้ปู่พรหม์เป็นผู้สืบทอดวิชาทำเครื่องรางของขลังอาถรรพณ์ต่างๆแทนท่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดังนั้นปู่พรหม์จึงได้เป็นอาจารย์คนตั้งแต่อายุยังน้อยมีลูกศิษย์ลูกหานับถือกันมาก แม้แต่ในปัจจุบันพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายรูปด้วยกันยังเคยฝากตัวเป็นศิษย์ปู่พรหม์มาแล้ว
ปัจจุบันปู่พรหม์มีภรรยาทั้งหมด 17 คน มีลูกเต้ามากมายหลายคนและมีหลายบ้าน ท่านจึงไม่ค่อยได้อยู่เป็นที่ คนส่วนน้อยที่จะได้พบกับท่านนอกจากศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะได้เจอและนานทีปู่พรหม์ถึงจะแวะมาหาลูกศิษย์ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงรายทีหนึ่ง ขณะนี้ปู่พรหม์ได้ไปพักอยู่ที่เมืองเชียงตุงและ 5-6 เดือนท่านจึงจะแวะมาที่ ท่าขี้เหล็กทีหนึ่ง
ปู่พรหม์ท่านเป็นฆราวาสผู้เฒ่าผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังพลังจิตกล้าแข็งรู้วิชามาก สร้างและเสกของได้เข้มขลังมีฤทธิ์แรงเห็นผลรวดเร็วเครื่องรางของขลังต่างๆที่ปู่พรหม์สร้างออกมานั้นล้วนแต่เป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีไว้บูชาต่างก็หวงแหนเพราะปู่พรหม์ท่านสร้างของน้อยมาก ท่านสร้างออกมาทีไรศิษย์ใกล้ชิดมักจะเก็บไว้หมด คนภายนอกส่วนน้อยมากที่จะได้ไว้บูชา ปู่พรหม์กล่าวว่าเหตุที่ท่านสร้างของน้อยเพราะว่าผงมวลสารอาถรรพณ์ต่างๆล้วนหายากมีจำนวนจำกัดเวลาสร้างท่านจึงเน้นพุทธคุณเป็นหลักมิใช่เน้นปริมาณสังเกตได้จากหนุ่มชาวพม่าหลายคนที่อยู่ท่าขี้เหล็กล้วนแต่ได้ภรรยาไทยที่หน้าตาดีๆกันทั้งนั้นเนื่องจากเขาเหล่านั้นล้วนแต่มีของดีของปู่พรหม์บูชาติดตัวกันทุกคน
ปู่พรหม์มักจะกล่าวว่าของๆข้าทุกชิ้นที่พวกเอ็งเอาไปใช้ ข้าสร้างและเสกอย่างเต็มกำลังพวกเอ็งเอาไปใช้จะต้องสมหวังในความรักกันทุกคน ข้าเอาตัวข้าเป็นประกันได้ ถ้าหากพวกเอ็งใช้ไม่ได้ผลเอ็งเอาของข้าไปโยนทิ้งไค้เลย ข้าเรียนวิชามาตั้งแต่เด็กจนแก่สร้างของขลังมาก็มาก ถ้าของข้าไม่ดีจริงจะมีคนมาหาข้าเอาของข้าไปบูชาเยอะแยะขนาดนี้หรือ ข้าให้ของเขาไปบูชาร้อยคนมันต้องได้ผลร้อยคน ส่วนคนที่มัน ใช้ไม่ได้ผลไม่ใช่เพราะของข้าไม่ขลังแต่เป็นเพราะว่ามันไม่เชื่อมั่นนับถือกันจริง เอาของๆข้าไปวางไว้เฉยๆใช้บ้างถอดทิ้งบ้าง มันจะได้ผลอะไร ของๆข้าๆมั่นใจว่า แม้นเอ็ง ไม่หล่อ ไม่สวย ไม่รวย เอ็งต้องหาคู่ได้แน่นอน ไม่ต้องกลัวผิดหวัง ยังไงข้าก็ไม่ให้เสียชื่อครูบาอาจารย์ที่สอนวิชาข้ามาหรอก และของๆข้า เอ็งพิสูจน์ได้ทุกชิ้นดังนี้ นำเครื่องรางของข้ากำไว้ในฝ่ามือให้แน่น ท่องนะโม 3 จบ แล้วกำหนดจิตให้เป็นสมาธิ ท่องคาถาเรียกธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ (นะมะพะทะ) ไปเรื่อยๆอย่าให้ขาดทำใจให้เป็นสมาธิแล้วเอ็งจะรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัวหรือร้อนที่ฝ่ามือหรือหากเอ็งทำไม่เป็นเอ็งก็เอาไปให้พระที่ฝึกกรรมฐานหรือคนที่จับพลังเป็นเช็คดู ก็จะรู้ว่าของข้าแรงไม่เป็นรองใครแน่
กล่าวกันว่าปู่พรหม์ท่านพลังจิตกล้าแข็งมาก เวลาปู่พรหม์ท่านร่ายมนต์ปลุกเสกของขลังคลาใด ลูกศิษย์ไม่สามารถถ่ายรูปติดได้ชัดสักครั้งทั้งกล้องใส่ฟิล์มหรือดิจิตอลแม้แต่กล้องวีดีโอก็ตามไม่สามารถบันทึกได้ทุกครั้งไปหากบันทึกได้ก็เห็นแต่รูปลางๆ และมีแสงต่างๆ พวยพุ่งล้อมรอบตัวปู่พรหม์เท่านั้น
เครื่องรางของขลังชุดนี้ปู่พรหม์ท่านได้จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายและมีจำนวนไม่มากนักเพราะปัจจุบันท่านมีอายุมากสายตาไม่คอยดีและของขลังแต่ละชิ้นนั้นขั้นตอนการสร้างนั้นซับซ้อนและการเสกจะต้องใช้พลังจิตสูงมาก ครั้นจะให้คนอื่นทำแทน ท่านก็กลัวว่าจะไม่ขลังเหมือนกับที่ท่านทำเองกับมือ ท่านจึงกล่าวว่าจะให้เครื่องรางชุดนี้เป็นรุ่นสุดท้าย ที่ท่านจัดสร้างขึ้นด้วยตนเองตามตำราโบราณ
เครื่องรางอาถรรพณ์ 3 ชิ้นนี้ข้าสร้างให้พวกเอ็งใช้กันทางด้านเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมต่อไปพวกเอ็งคงสมหวังในความรักกันเสียทีพวกเอ็งเลือกเอาเองเถิดนะว่าชอบแบบไหน หากใช้แล้วได้ผลดังปรารถนาเอ็งต้องรับผิดชอบดูแลเขาด้วยนะ หากทิ้งขว้างเขามันจะเป็นบาปมาถึงตัวข้าได้และให้พวกเอ็งประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรมบ้างนะลูกเอ๋ย
หมายเหตุ
ข้อมูลทั้งหมดคัดลอกมาจากนิตยสารพระเครื่องฉบับหนึ่งได้ลงเอาไว้เมือปี 2548 สร้างจากสีผึ้งพรหมจรรย์โดยมีเคล็ดว่าต้องซื้อกับเด็กหญิงสาวที่บริสุทธิ์ 7 คน นำมาผสมกับรังผึ้งร้างรังที่ทำรังบนต้นไม้รักกิ่งทางทิศตะวันออกและสีผึ้งปิดตาพระเจ้า นำมาผสมรวมกัน โดยกำหนดฤกษ์ยามที่เป็นมงคลเหมาะสำหรับทำพิธีกรรมด้านมหาเสน่ห์ตั้งขันบูชาครูขึ้นทั้ง 4 ทิศ โดยนำไม้รักและไม้มะยมมามัดรวมกัน ปักล้อมไว้ทั้ง 4 ทิศ พันล้อมด้วยด้ายสายสิญจน์โดยห้ามผู้ใดเข้ามาในพิธีโดยเด็ดขาด เมื่อนำสีผึ้ง 3 อย่างมาผสมรวมกันดีแล้ว จึงนำว่านอาถรรพณ์ที่มีฤทธิ์ทางด้านมหาเสน่ห์โดยตรง 7 ชนิด น้ำมันพรายแท้พราย 9 ตน ผงมหาภูติและพรายที่ปู่พรห์มผูกขึ้นทางมหาเสน่ห์ ผงอาถรรพณ์เหล่านี้ปู่พรห์มกล่าวว่าท่านได้ผูกด้วยอาคมไว้แล้วไม่มีการเสื่อมฤทธิ์ มีแต่จะหนุนในด้านดีให้ผู้บูชาได้พบแต่ความสำเร็จสมดังใจปรารถนา ในด้านความรัก ผงเหล่านั้นแม้นไม่ได้นำมาผสมสีผึ้ง เพียงแค่บูชาติดตัวก็เป็นเมตตาเสน่ห์อย่างดีชั้นเยี่ยมทีเดียว สาเหตุที่นำมาผสมนั้นเพื่อต้องการให้เห็นผลเห็นฤทธิ์เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนส่วนมากมักต้องการความรวดเร็วเห็นผลทันตา และใจร้อน ปู่พรห์มจึงนำมาผสมกับหัวเชื้อ เมื่อนำของอาถรรพณ์เหล่านี้มาผสมรวมกันดีแล้ว ปู่พรห์มจึงได้นำไม้รักและไม้มะยมคนเคี่ยวสีผึ้งให้เข้ากันโดยท่องมนต์คาถาประจุอาคมด้านเมตตามหาเสน่ห์ลงไปจนครบทุกบท และฟืนที่ใช้หุงนั้นต้องใช้ไม้รักและไม้มะยมนำมาจารอักขระเลขยันต์ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ทุกท่อน เวลานำฟืนใส่จะต้องใส่ให้ถูกด้าน เช่น ถ้าใส่ทางปลายก็ใส่ทางปลาย หากใส่ทางโคนก็ต้องทางโคนไปตลอดจนฟืนนี้ไหม้หมดกับไฟเมื่อหุงได้ที่ดีแล้ว ปู่พรห์มจึงนำสีผึ้งนั้นฝังไว้ในป่าช้านาน 7 วัน 7 คืน เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าช้าได้ลงมาปลุกเสก เมื่อครบกำหนดเวลาปู่พรห์มจึงนำหม้อสีผึ้งนั้นไปตั้งไว้กลางเชิงตะกอนเผาศพทำพิธีปลุกเสกสีผึ้งด้วยมนต์มหาเสน่ห์ จนสีผึ้งนี้ละลายด้วยพลังจิตโดยไม่ต้องใช้ไฟแต่อย่างใด จึงเป็นอันเสร็จพิธี สีผึ้งนี้ผู้ใดมีไว้บูชาติดตัวจะเป็นเมตตามหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและผู้พบเห็นตรึงจิตตรึงใจให้คิดพิศวาสรักใคร่หลงใหล ดึงดูดใจเพศตรงข้ามดีนัก อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้นเหล่าเทพเทวดาทั้งหลายหากได้ประสบพบเห็นก็จะทนอยู่มิได้ ให้นำสีผึ้งนี้ทาที่หัวคิ้วและหน้าผากก่อนออกจากบ้านเพื่อไปจีบสาว หรือติดต่อเจรจาค้าขายเข้าหาเจ้านายทุกครั้งดีนักแล หากค้าขายให้นำสีผึ้งนี้ทาสิ่งของที่ต้องการจะขายก็จะสำริดผลเห็นกันมานักต่อนักแล้ว หมายเหตุสีผึ้งนี้ฤทธิ์สูงมากทางเมตตามหาเสน่ห์ให้ใช้ด้วยความระมัดระวังรับผิดชอบ
ก่อนใช้สีผึ้งพรายรัญจวนให้ภาวนาด้วยคาถาบทนี้
โอม มะโมพุทธายะ เพชชะละลวย ชายเห็นชายงวย หญิงเห็นหญิงหลง
เห็นหน้ากูก็ให้งวยงงพิศวาสครวญหา นั่งท่าฟังข่าว นั่งเฝ้าปากทาง นั่งเยี่ยมหน้าต่าง
กอดอกรำพึง มะอะอุ สุดคำนึงบ่มินอน อิสวาสุ
สุดสวาทอารมณ์ ร้อนรนทนอยู่มิได้ ร้องไห้มาหากู
พุทธังสะระติจิตตัง สะมาเร มะมะเอหิ ธัมมังสะระติจิตตัง
สะมาเร มะมะเอหิ สังฆังสะระติจิตตัง สะมาเร มะมะเอหิ นะมิ
เห็นหน้ากูอยู่มิได้ โมร้องไห้ครวญคราง พุทกอดไว้มิใคร่จะวาง
ธาครวญครางสะอื้นไห้ ยะหลงใหลในจิต
หญิงชายใดเพ่งพิศเห็นหน้ากู อยู่มิได้ ร้องไห้มาหากู
โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา
ท่อง 3 จบแล้วกลั้นใจเป่าคาถาบทนี้ลงที่สีผึ้ง 3 ที แล้วจึงนำมาทาที่หัวคิ้วและหน้าผากอธิษฐานตามปรารถนาแล
ห
มายเหตุ ข้อมูลทั้งหมดทางร้านได้คัดลอกมาจากนิตยสารพระเครื่องฉบับหนึ่งได้ลงไว้ปี 2547 |